วิธีแก้ไขข้อบกพร่องของงบการเงินที่ยื่นไปแล้ว
วิธีแก้ไขข้อบกพร่องของงบการเงินที่ยื่นไปแล้ว
การยื่นงบการเงินเป็นหน้าที่สำคัญของบริษัทจำกัดและบริษัทมหาชนจำกัด ซึ่งต้องยื่นให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) และกรมสรรพากรตามเวลาที่กฎหมายกำหนด แต่บางครั้งบริษัทอาจพบว่า งบการเงินที่ยื่นไปแล้วมีข้อผิดพลาด เช่น บัญชีผิดพลาด รายการตกหล่น หรือข้อมูลไม่ตรงกับความเป็นจริง ซึ่งอาจกระทบทั้งทางภาษี ความน่าเชื่อถือ และความรับผิดชอบทางกฎหมาย
หากคุณพบว่ามีการยื่นงบการเงินที่มีข้อผิดพลาดไปแล้ว ไม่ต้องกังวลมากนัก เนื่องจากสามารถดำเนินการแก้ไขได้ตามขั้นตอนที่กำหนด โดยมีรายละเอียดดังนี้ :
1. วิเคราะห์ก่อนว่า “ข้อผิดพลาดเกิดจากอะไร?”
ก่อนดำเนินการแก้ไข บริษัทควรวิเคราะห์ต้นตอของความผิดพลาดให้ชัดเจน
ประเภทของข้อผิดพลาดที่พบบ่อย ได้แก่:
- การลงบัญชีผิดพลาด เช่น คำนวณตัวเลขผิด, เดบิต–เครดิตสลับ
- รายการตกหล่น เช่น ไม่บันทึกรายได้หรือค่าใช้จ่ายบางรายการ
- ใช้มาตรฐานบัญชีผิด
- เปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี (เช่น ค่าเสื่อมราคา)
- มีรายการย้อนหลังที่เกิดขึ้นหลังจากปิดงบแล้ว
- การตรวจพบจากผู้สอบบัญชีภายหลัง
การทราบต้นเหตุจะช่วยกำหนดวิธีการแก้ไขที่เหมาะสมตามหลักบัญชีและกฎหมาย
2. ต้องแก้ไขอะไรบ้าง?
การแก้ไขงบการเงินที่ยื่นไปแล้ว อาจต้องแก้ไขเอกสารหลายชุดพร้อมกัน เช่น:
- งบการเงินที่ยื่นกับกรมพัฒนาธุรกิจฯ (DBD)
- แบบ ภงด.50 (ภาษีเงินได้นิติบุคคล) ที่ยื่นกับกรมสรรพากร
- หมายเหตุประกอบงบการเงิน
- รายงานของผู้สอบบัญชี
- หนังสือรับรองงบการเงิน
- สมุดบัญชีที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่งบการเงินได้รับการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีแล้ว (Audit) หากมีการแก้ไขใด ๆ จะต้องให้ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและลงลายมือชื่อใหม่อีกครั้ง
3. ขั้นตอนการแก้ไขงบการเงินกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD)
หากพบข้อผิดพลาดหลังจากยื่นงบผ่าน DBD ไปแล้ว จำเป็นต้องดำเนินการ ยื่นงบการเงินฉบับแก้ไข (งบฉบับใหม่) โดยมีขั้นตอนดังนี้:
- จัดทำงบการเงินฉบับแก้ไขใหม่ พร้อมหมายเหตุประกอบงบ
- ประชุมคณะกรรมการบริษัทและผู้ถือหุ้น เพื่ออนุมัติงบฉบับใหม่
- ให้ผู้สอบบัญชีรับรองงบการเงินฉบับใหม่อีกครั้ง
- ยื่นงบการเงินฉบับแก้ไขผ่านระบบ DBD e-Filing
- ระบุในแบบ สบช.3 ว่าเป็น “งบการเงินฉบับแก้ไข”
- หากมีหนังสือชี้แจงความจำเป็นในการแก้ไขแนบไปด้วย จะช่วยให้เจ้าหน้าที่พิจารณาได้รวดเร็วขึ้น
⏰ ข้อควรระวัง: หากพ้นกำหนดเวลายื่นงบการเงิน (ภายใน 1 เดือนหลังประชุมสามัญ) จะถูกปรับตามกฎหมาย เว้นแต่มีเหตุอันควร
4. ขั้นตอนการแก้ไขภาษีกับกรมสรรพากร
หากการแก้ไขงบการเงินมีผลต่อยอดภาษีที่คำนวณ เช่น
- รายได้เพิ่มขึ้น = ภาษีต้องจ่ายเพิ่ม
- ค่าใช้จ่ายลดลง = กำไรเพิ่ม = ภาษีเพิ่ม
จะต้องดำเนินการยื่นแบบ ภงด.50 หรือแบบแสดงรายการอื่น ๆ ฉบับใหม่ (แก้ไข) ด้วย
วิธีดำเนินการ:
- เตรียมแบบ ภงด.50 ฉบับแก้ไข พร้อมเอกสารแนบ
- ยื่นที่สำนักงานสรรพากรพื้นที่ หรือผ่าน e-Filing
- หากยอดภาษีเพิ่มขึ้น ต้องชำระเงินส่วนต่างพร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
- หากภาษีลดลง ต้องแนบคำชี้แจง และรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ก่อนพิจารณาคืนเงิน
🔔 หากการแก้ไขเกิดจากเจตนาไม่บริสุทธิ์ อาจเข้าข่าย “หลีกเลี่ยงภาษี” และถูกดำเนินคดีได้
5. ต้องแจ้งผู้มีส่วนได้เสียอื่นหรือไม่?
ขึ้นอยู่กับลักษณะของกิจการและข้อตกลง เช่น
- ธนาคาร / สถาบันการเงิน: หากงบใช้ประกอบการขอกู้ ต้องแจ้งและยื่นงบฉบับใหม่
- ผู้ถือหุ้น / นักลงทุน: ควรมีหนังสือชี้แจงอย่างโปร่งใส
- หน่วยงานภายนอกอื่น: หากยื่นงบให้กับ BOI, กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ฯลฯ ต้องตรวจสอบเงื่อนไขการแก้ไข
6. คำแนะนำเพื่อป้องกันปัญหาภายหลัง
- ตรวจสอบความถูกต้องของงบการเงินอย่างละเอียดก่อนยื่น
- ให้ผู้สอบบัญชีช่วยทบทวนตัวเลขในระบบบัญชี
- มีระบบควบคุมภายในที่เข้มงวด เช่น ตรวจสอบยอดขาย–ต้นทุน–เงินสดทุกเดือน
- ใช้โปรแกรมบัญชีที่สามารถจัดเก็บประวัติการแก้ไขได้
- หากเกิดข้อผิดพลาด ให้ดำเนินการแก้ไขทันที อย่ารอจนเจ้าหน้าที่ตรวจพบ
7. งบการเงินที่แก้ไข ต้องจัดทำย้อนหลังหรือแสดงผลกระทบในปีปัจจุบัน?
ในทางปฏิบัติการบัญชี ตาม มาตรฐานการรายงานทางการเงิน (TFRS) หากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ และเกิดจากงวดก่อนหน้า (prior period errors) บริษัทจะต้อง:
- ปรับปรุงงบย้อนหลัง (restatement)
- เปิดเผยรายละเอียดใน หมายเหตุประกอบงบการเงิน อย่างชัดเจน
ตัวอย่างเช่น:
ปี 2566 ยื่นงบไปแล้ว แต่พบว่าค่าใช้จ่ายในปี 2565 บันทึกขาดไป 2 ล้านบาท
✅ ต้องจัดทำงบปี 2565 ใหม่ พร้อมหมายเหตุว่าเป็นฉบับแก้ไข
✅ ไม่สามารถนำไปลงในปี 2566 ได้เพียงอย่างเดียว
แต่ในกรณีที่ข้อผิดพลาด “ไม่เป็นสาระสำคัญ” หรือเป็นเพียงการประมาณการบัญชีที่เปลี่ยนแปลง (เช่น ปรับอัตราค่าเสื่อม) บริษัทสามารถบันทึกผลกระทบในงวดปัจจุบันได้เลย โดยไม่ต้องย้อนกลับไปแก้ปีเก่า
การพิจารณาว่าจะย้อนหลังหรือไม่ ต้องดูจากสาระสำคัญและผลกระทบต่อการตัดสินใจของผู้ใช้งบการเงินเป็นหลัก
8. แล้วถ้ามีการ “เปลี่ยนผู้สอบบัญชี” หลังยื่นงบ ต้องทำยังไง?
หากหลังยื่นงบการเงินแล้วบริษัทมีการเปลี่ยนผู้สอบบัญชี และต่อมาพบว่าต้องแก้ไขงบที่ตรวจสอบไปแล้ว
✅ บริษัทสามารถให้ผู้สอบบัญชีคนใหม่ตรวจสอบงบฉบับแก้ไขได้
แต่ต้องแนบหนังสือแสดงเหตุผลของการเปลี่ยนผู้สอบบัญชี
และเปิดเผยให้ชัดเจนในหมายเหตุประกอบงบ ว่า
“งบการเงินฉบับนี้เป็นการแก้ไขจากฉบับที่ยื่นไปก่อนหน้านี้ พร้อมทั้งเปลี่ยนผู้สอบบัญชีจาก… เป็น…”
ทั้งนี้ อาจมีผลต่อความน่าเชื่อถือของงบการเงินในมุมมองของผู้ลงทุน หรือหน่วยงานกำกับดูแล เช่น สถาบันการเงิน
9. ถ้าการแก้ไขมาจากการ “ถูกตรวจสอบจากสรรพากร” ควรดำเนินการอย่างไร?
ในหลายกรณี บริษัทไม่ได้รู้ตัวเองว่ามีข้อผิดพลาด
แต่เกิดจากการที่กรมสรรพากรเข้ามาตรวจภาษีย้อนหลัง แล้วพบว่า:
- รายได้ที่ไม่ได้นำมาบันทึก
- ค่าใช้จ่ายต้องห้ามที่บันทึกผิด
- รายการสินค้าคงเหลือคลาดเคลื่อน
ในกรณีนี้ บริษัทควร:
- ขอคัดสำเนาข้อค้นพบจากเจ้าหน้าที่
- นัดผู้สอบบัญชี/ที่ปรึกษาภาษี เพื่อประเมินผลกระทบ
- ตัดสินใจว่าควรแก้ไขงบการเงินหรือไม่
- หากแก้ไข ให้รีบยื่นงบฉบับใหม่ และปรับแบบ ภงด.50 พร้อมชำระภาษีเพิ่มเติม
💡 ข้อแนะนำ: ยิ่งบริษัทให้ความร่วมมือเร็วเท่าไร โอกาสได้รับ “ลดเบี้ยปรับ/เงินเพิ่ม” ก็จะมีมากขึ้น
10. ข้อแนะนำสำหรับผู้บริหาร / CFO / ฝ่ายบัญชี
การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในอนาคต ควรเริ่มจากระบบควบคุมภายในที่ดีและวัฒนธรรมการทำงานที่โปร่งใส เช่น:
- จัดทำบัญชีประจำเดือน ไม่รอปิดบัญชีปลายปี
- มีการ รีวิวภายในก่อนส่งงบให้ผู้สอบบัญชี
- ใช้ระบบ ERP หรือโปรแกรมบัญชีที่ตรวจสอบย้อนหลังได้
- ตรวจสอบยอดสินค้าคงเหลือ / รายได้ / ลูกหนี้–เจ้าหนี้ ทุกไตรมาส
- จัดอบรมพนักงานบัญชีเป็นประจำ
- วางนโยบาย “แจ้งข้อผิดพลาดโดยไม่ลงโทษ” เพื่อให้ทีมกล้าแจ้งปัญหา
“งบการเงินที่ยื่นแล้ว… แก้ไขได้ แต่ต้องถูกต้อง”
การแก้ไขข้อผิดพลาดในงบการเงินเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และถูกต้องตามกฎหมาย
เพราะงบการเงินคือภาพสะท้อนของธุรกิจ
หากตัวเลขไม่แม่นยำ = ความเชื่อมั่นของคู่ค้าหายไป
หากภาษีผิด = ความเสี่ยงทางกฎหมายตามมา
✅ ตรวจสอบให้ชัดเจนว่าเป็นข้อผิดพลาดจากอะไร
✅ ดำเนินการยื่นเอกสารใหม่ทั้ง DBD และสรรพากร
✅ แจ้งผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างโปร่งใส
✅ หากไม่แน่ใจ ต้องรีบขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ
เพราะในโลกธุรกิจ “ความผิดพลาดแก้ได้… แต่ความไว้ใจเสียไปแล้ว อาจไม่กลับมา”
ข้อควรระวัง :
การแก้ไขงบการเงินที่ยื่นไปแล้วสามารถทำได้ แต่ต้องดำเนินการอย่างรอบคอบ เป็นระบบ และต้องแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่ง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสรรพากร ผู้สอบบัญชี และผู้ถือหุ้น
สิ่งสำคัญคือ ต้อง มีเหตุผลที่ชัดเจน โปร่งใส และจัดการอย่างมืออาชีพ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของบริษัท และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางภาษีหรือกฎหมายในอนาคต
หากไม่มั่นใจในการดำเนินการ ควรปรึกษาผู้สอบบัญชีหรือนักบัญชีมืออาชีพอย่าง กรีนโปร เคเอสพี กรุ๊ป เพื่อให้การแก้ไขเป็นไปตามมาตรฐานและถูกต้องที่สุด
ติดต่อบริการปิดงบการเงิน
ติดต่อสำนักงานบัญชี บริษัท กรีนโปร เคเอสพี แอคเคาท์ติ้ง จำกัด
ที่อยู่: 32/8 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 73 (พรกุลวัฒน์) แขวง ออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 17.30 น.
LINE Official Account: @greenprokspacc
โทรศัพท์: 085-067-4884