

รายจ่ายแบบไหนบ้างที่บริษัทสามารถหักภาษีได้ ในโลกของการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของบริษัทเล็กหรือกิจการขนาดใหญ่ “ภาษี” คือหนึ่งในภาระหน้าที่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การเข้าใจว่ารายจ่ายใดสามารถนำมาหักลดหย่อนภาษีได้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการบรรเทาภาระทางภาษี แต่ยังเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารการเงินที่มีประสิทธิภาพ และถูกต้องตามกฎหมาย บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกว่า รายจ่ายประเภทใดบ้างที่ถือว่า “หักภาษีได้” ตามกฎหมายไทย, ต้องมีเอกสารอะไรประกอบ, และมีเงื่อนไขอย่างไรเพื่อให้กรมสรรพากรยอมรับโดยไม่มีปัญหาภายหลัง ความหมายของรายจ่ายที่หักภาษีได้ รายจ่ายที่สามารถนำมาหักภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ จะต้องเป็น รายจ่ายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบกิจการ มีความจำเป็นและสมเหตุสมผล
ธุรกิจที่ต้องขอใบอนุญาตพิเศษเพิ่มเติมหลังจดทะเบียนบริษัท การเริ่มต้นธุรกิจในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วน หรือกิจการเจ้าของคนเดียว ล้วนต้องผ่านขั้นตอน “การจดทะเบียน” กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า หรือกระทรวงพาณิชย์ เพื่อให้ธุรกิจมีสถานะทางกฎหมาย กลายเป็น “นิติบุคคล” ที่สามารถดำเนินกิจการได้ อย่างไรก็ตาม หลายคนมักเข้าใจผิดว่า เมื่อจดทะเบียนบริษัทเรียบร้อยแล้ว ธุรกิจสามารถเริ่มเปิดดำเนินการได้ทันที ซึ่งในความเป็นจริงนั้นไม่ใช่กับทุกธุรกิจ ธุรกิจบางประเภท ต้องขอใบอนุญาตพิเศษเพิ่มเติม
การจดบริษัทแบบมีชาวต่างชาติร่วมลงทุน เปิดประตูธุรกิจสู่ตลาดโลกอย่างถูกต้องตามกฎหมายไทย ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน การขยายธุรกิจทางการค้าไปยังต่างประเทศไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป หลายธุรกิจในประเทศไทยเริ่มมองเห็นโอกาสในการร่วมมือกับชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี ทุน หรือช่องทางตลาด การมี “นักลงทุนต่างชาติ” เข้ามาร่วมทุนในบริษัทไทย จึงเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่ม SME และ Startup ที่ต้องการเติบโตแบบก้าวกระโดด แต่การจดบริษัทโดยมีชาวต่างชาติเข้ามาร่วมถือหุ้นนั้น สามารถทำได้
ค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรจัดการอย่างไรให้ไม่รั่วไหล? ในการดำเนินธุรกิจ ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ “ค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ” ที่ดูเหมือนไม่มีนัยสำคัญ มักเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินสดในกิจการหายโดยไม่รู้ตัว หลายครั้งเมื่อถึงสิ้นเดือน เรากลับพบว่าแม้จะมียอดขายดี แต่เงินในบัญชีกลับไม่พอใช้ หรือไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าเงินหายไปไหน ค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย
ถ้าบัญชีบันทึกรายจ่ายมากเกินจริง เสี่ยงโดนตรวจย้อนหลังไหม? ในระบบภาษีรายได้และรายจ่ายเป็นองค์ประกอบสำคัญในการคำนวณ “กำไรสุทธิ” ของกิจการ ซึ่งจะเป็นฐานในการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา หากผู้ประกอบการจงใจหรือไม่ได้ตั้งใจในการบันทึกรายจ่ายเกินความเป็นจริง ไม่ว่าจะเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี หรือเพราะขาดความรู้ความเข้าใจ อาจนำไปสู่การตรวจสอบย้อนหลังโดยกรมสรรพากร ซึ่งมีโทษทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและอาญา ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกว่าการบันทึกรายจ่ายเกินจริงมีผลอย่างไร สรรพากรสามารถตรวจย้อนหลังได้หรือไม่ ตรวจอย่างไร มีบทลงโทษอะไรบ้าง และผู้ประกอบการควรป้องกันความเสี่ยงอย่างไร เพื่อรักษาธุรกิจให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย รายจ่ายเกินจริงคืออะไร? คำว่า
จะรู้ได้อย่างไรว่าธุรกิจมีกำไรจริง? การทำธุรกิจ “ยอดขายดี” อาจไม่ดีเท่ากับ “มีกำไร” และ “มีกำไรบนกระดาษ” ก็อาจไม่ใช่ “กำไรจริง” ที่จับต้องได้ในบัญชีเงินสด นี่คือความจริงที่ผู้ประกอบการหลายคนไม่ทันได้คิด จนบางครั้งธุรกิจที่ดูเหมือนจะไปได้ดี กลับกลายเป็นกำลังขาดทุนโดยไม่รู้ตัว คำถามสำคัญที่ผู้ประกอบการควรถามตัวเองเป็นระยะคือ “ธุรกิจเรามีกำไรจริงไหม?” การรู้คำตอบอย่างถูกต้อง ไม่ใช่แค่การดูยอดเงินในบัญชี หรือคำนวณคร่าว ๆ จากยอดขายลบต้นทุน
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการขอใบอนุญาตขายสุรา การจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น สุรา เบียร์ ไวน์ หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดต่าง ๆ เป็นกิจกรรมทางธุรกิจที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายอย่างเข้มงวด ผู้ที่ประสงค์จะขายสุราจำเป็นต้องมี “ใบอนุญาตขายสุรา” อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นการขายในร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ผับบาร์ หรือแม้กระทั่งร้านค้าชุมชนก็ตาม หลายคนเข้าใจผิดว่าการขายเบียร์กระป๋องหรือไวน์ขวดในร้านอาหารเล็ก ๆ นั้นไม่จำเป็นต้องขออนุญาต หรือมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว
ขายของใน Shopee / TikTok ต้องออกใบกำกับภาษีไหม? ปัจจุบันโลกออนไลน์กลายเป็นช่องทางขายของที่เข้าถึงง่าย พ่อค้าแม่ค้าสามารถเปิดร้านค้าได้ด้วยปลายนิ้ว บางคนแค่มีโทรศัพท์เครื่องเดียว ก็สามารถขายของได้ทั้งวันผ่าน Shopee, Lazada, หรือแม้แต่ TikTok Shop จนกลายเป็นอาชีพหลักที่เลี้ยงดูครอบครัวได้สบาย ๆ แต่เมื่อรายได้เริ่มมากขึ้น คำถามสำคัญที่มักจะตามมาก็คือ “ต้องออกใบกำกับภาษีไหม?” คำถามนี้ไม่ได้มีแค่ผู้ค้าออนไลน์เท่านั้นที่สงสัย
พ.ร.บ.ควบคุมอาหาร แอลกอฮอล์ และสถานที่สะสมอาหาร มีผลต่อธุรกิจอย่างไร? การทำธุรกิจในยุคปัจจุบันไม่ได้อาศัยแค่ไอเดียและเงินทุนเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยความเข้าใจใน “กฎหมาย” ที่เกี่ยวข้องกับประเภทสินค้าหรือบริการที่ดำเนินการด้วย โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอาหาร เครื่องดื่ม หรือสถานที่จัดเก็บวัตถุดิบ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ โรงงานผลิต หรือคลังสินค้า หากมองข้ามเรื่องกฎหมายไปอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ เช่น โดนสั่งปิด ถูกดำเนินคดี