ประเภทของใบอนุญาตนำเที่ยว รู้ก่อนเปิดบริษัททัวร์อย่างถูกกฎหมาย

ประเภทของใบอนุญาตนำเที่ยว

ประเภทของใบอนุญาตนำเที่ยว 

การจัดนำเที่ยว แม้จะเป็นเพียงทริปเล็ก ๆ ที่มีการเก็บเงินหรือผลประโยชน์ตอบแทน ถือเป็น “ธุรกิจนำเที่ยว” ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หากดำเนินการโดยไม่มีใบอนุญาต มีโทษตามกฎหมายและถูกเพิกถอนสิทธิ์ในการขออนุญาตในอนาคตได้

ดังนั้น “ใบอนุญาตนำเที่ยว” คือเอกสารที่ยืนยันว่าบริษัทของคุณผ่านเกณฑ์ตามกฎหมาย มีสถานที่ดำเนินการจริง มีผู้จัดการธุรกิจนำเที่ยวที่ผ่านการอบรม และวางเงินค้ำประกันเพื่อคุ้มครองนักท่องเที่ยวเรียบร้อยแล้ว

ใบอนุญาตนำเที่ยวคืออะไร?

คือเอกสารที่กรมการท่องเที่ยวออกให้กับบุคคลหรือบริษัทที่มีสิทธิ์ประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยระบุประเภทของการให้บริการ เช่น นำนักท่องเที่ยวในประเทศ ไปต่างประเทศ หรือรับนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ

ใบอนุญาตนี้มีอายุ 2 ปี และต้องต่ออายุภายใน 90 วันก่อนหมดอายุ ปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ประเภทหลัก ที่ผู้ประกอบการต้องรู้ก่อนยื่นขอ

1. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว “เฉพาะพื้นที่” (Local Tour License)

เป็นใบอนุญาตที่ออกให้แก่ผู้ประกอบการที่จัดนำเที่ยวเฉพาะภายในจังหวัดที่ตั้งสำนักงาน หรือ จังหวัดใกล้เคียง เหมาะสำหรับการนำเที่ยวขนาดเล็ก หรือผู้ประกอบการในพื้นที่ท้องถิ่น

ตัวอย่างเช่น

  • บริษัทในจังหวัดเชียงใหม่ พานักท่องเที่ยวเที่ยวเฉพาะเชียงใหม่–ลำพูน–แม่ฮ่องสอน
  • บริษัทในภูเก็ต รับลูกค้าต่างจังหวัดมาพาเที่ยวเฉพาะในเกาะภูเก็ตและพังงา

เงินค้ำประกันที่ต้องวาง 3,000 บาท

  • ใช้เงินค้ำประกันน้อย
  • เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กในท้องถิ่น
  • ขั้นตอนขออนุญาตไม่ซับซ้อน

ข้อจำกัด

  • ไม่สามารถจัดทัวร์ไปต่างจังหวัดไกล ๆ ได้ 
  • ห้ามจัดทัวร์ออกนอกประเทศ

เหมาะกับ: ธุรกิจชุมชน, บริษัทนำเที่ยวท้องถิ่น, ธุรกิจโฮมสเตย์, แพ็กเกจทัวร์ชุมชน

2. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว “ภายในประเทศ” (Domestic Tour License)

สำหรับผู้ประกอบการที่จัดนำเที่ยวภายในประเทศไทยทั้งหมด สามารถพานักท่องเที่ยวเที่ยวได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ

ตัวอย่างเช่น

  • บริษัททัวร์ในกรุงเทพฯ จัดทัวร์เหนือ–ใต้–อีสานได้หมด
  • บริษัทในเชียงใหม่รับกรุ๊ปจากกรุงเทพฯ มาทัวร์ภูเขา

เงินค้ำประกันที่ต้องวาง 15,000 บาท

  • ขอบเขตกว้างทั่วประเทศไทย
  • สามารถจัดกรุ๊ปทัวร์/Team Building/Corporate Trip ได้ทั่วไทย
  • เป็นใบอนุญาตที่ผู้ประกอบการขอมากที่สุด

ข้อจำกัด

  • ห้ามจัดทัวร์ออกต่างประเทศ
  • ต้องมีผู้จัดการธุรกิจนำเที่ยวที่ผ่านเกณฑ์อบรม

เหมาะกับ: บริษัททัวร์ทั่วไทย, ผู้จัดอีเวนต์ท่องเที่ยว, ธุรกิจรถเช่า/รีสอร์ตที่จัดแพ็กเกจร่วม

3. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว “ระหว่างประเทศ” (Outbound Tour License)

สำหรับบริษัทที่จัดนำเที่ยวพาคนไทยเดินทางไปต่างประเทศ เช่น ทัวร์ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ยุโรป หรือประเทศอื่น ๆ

ตัวอย่างเช่น

  • บริษัททัวร์ในไทยขายแพ็กเกจ “เที่ยวญี่ปุ่น 5 วัน 3 คืน”
  • บริษัทที่จัดทริปสกีเกาหลี / ดูบอลอังกฤษ / เที่ยวยุโรป

เงินค้ำประกันที่ต้องวาง 60,000 บาท

  • สามารถขายแพ็กเกจทัวร์ต่างประเทศได้ทั่วโลก
  • ลูกค้าเป็นกลุ่มคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ

ข้อจำกัด

  • ต้องมีผู้จัดการธุรกิจนำเที่ยวที่มีประสบการณ์ด้านการจัดทัวร์ต่างประเทศโดยเฉพาะ
  • ต้องมีระบบรับผิดชอบต่อลูกค้าอย่างชัดเจน
  • ใช้ทุนจดทะเบียนและเงินค้ำประกันมากกว่าใบอนุญาตประเภทอื่น

เหมาะกับ: บริษัททัวร์ที่มีเครือข่ายต่างประเทศ, ผู้เชี่ยวชาญตลาดต่างประเทศ, เอเจนซี่ที่ขายทัวร์ญี่ปุ่น/ยุโรป

4. ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว “ต่างประเทศเข้ามาไทย” (Inbound Tour License)

ออกให้แก่บริษัทที่จัดทัวร์ รับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย อาจรับจากเอเจนซี่ต่างประเทศ หรือจัดเองในไทย

ตัวอย่างเช่น

  • บริษัทในกรุงเทพฯ รับกรุ๊ปนักท่องเที่ยวจีนจากเอเจนซี่จีน
  • บริษัทในภูเก็ตรับกรุ๊ปยุโรปมาทัวร์ทะเลภาคใต้

เงินค้ำประกันที่ต้องวาง 30,000 บาท

  • ขายทัวร์ให้ต่างชาติที่เดินทางมาไทย
  • ได้รายได้สกุลต่างประเทศ
  • สามารถเป็นพาร์ตเนอร์กับเอเจนซี่ต่างประเทศได้

ข้อจำกัด

  • ต้องมีคู่ค้าต่างประเทศที่เชื่อถือได้
  • ต้องดูแลด้านเอกสารวีซ่า–การประกันภัยนักท่องเที่ยวให้ครบ
  • พนักงานต้องมีทักษะภาษาอังกฤษหรือภาษาต่างประเทศ

เหมาะกับ: บริษัททัวร์รับต่างชาติ, รีสอร์ตที่จัดแพ็กเกจครบวงจร

ถ้าต้องการ “ทำได้หลายแบบ” ขอใบอนุญาตหลายประเภทได้ไหม?

คำตอบคือ ได้ค่ะ ผู้ประกอบการสามารถขอใบอนุญาตหลายประเภทได้ พร้อมกันในคราวเดียว

แต่ต้องวางเงินค้ำประกันรวมตามจำนวนประเภท และต้องมี “ผู้จัดการธุรกิจนำเที่ยว” ที่มีคุณสมบัติครอบคลุมทุกประเภทที่ขอ

ถ้าขอ Outbound ด้วย ต้องแสดงใบรับรองอบรมธุรกิจนำเที่ยวระหว่างประเทศ หรือประสบการณ์จัดทัวร์ต่างประเทศมาก่อน

สรุปเลือกให้ถูกตั้งแต่แรก = ธุรกิจเดินได้เร็ว

การรู้ประเภทของใบอนุญาตนำเที่ยวเป็นก้าวแรกของการทำธุรกิจทัวร์อย่างถูกต้อง

เพราะจะช่วยให้คุณ

เตรียมเงินค้ำประกันได้ถูกต้อง

วางแผนขอบเขตบริการได้อย่างชัดเจน

ไม่เสียเวลายื่นแก้ไขในภายหลัง

ดังนั้น ก่อนเปิดบริษัททัวร์ ลองเช็กให้แน่ชัดว่า ธุรกิจอยู่ในขอบเขตใบอนุญาตแบบไหนแล้วเตรียมเอกสารให้ครบ เพื่อให้ธุรกิจของคุณเริ่มต้นอย่างมืออาชีพ และน่าเชื่อถือในสายตาลูกค้าทั้งไทยและต่างชาติ