8 จุดสำคัญที่ต้องมีในใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ

8จุดสำคัญที่ต้องมีในใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ

“ใบกำกับภาษี” เป็นเอกสารที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ของประเทศไทย เพราะเป็นหลักฐานสำคัญที่ใช้ในการ

  • เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากลูกค้า
  • ใช้สิทธิหักภาษีซื้อของผู้ซื้อ
  • ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมในระบบบัญชีและภาษี

ในกรณีที่เป็น “ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ” หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “ใบกำกับภาษีแบบเต็ม” ผู้ประกอบการที่จดทะเบียน VAT จะต้องออกเอกสารให้ครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด หากออกไม่ครบ อาจมีผลต่อการนำไปใช้หักภาษีซื้อ หรือถูกปรับในกรณีตรวจสอบโดยกรมสรรพากร

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก 8 จุดสำคัญที่ต้องมีในใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ใน มาตรา 86/4 แห่งประมวลรัษฎากร

1. คำว่า “ใบกำกับภาษี”

ใบกำกับภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมายจะต้องระบุคำว่า

“ใบกำกับภาษี” ไว้อย่างชัดเจนในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนของเอกสาร

หากไม่ระบุคำนี้ หรือใช้คำอื่นที่ใกล้เคียง เช่น “Invoice” อย่างเดียว
เอกสารจะถือว่า ไม่ใช่ใบกำกับภาษีที่สมบูรณ์ และไม่สามารถใช้หักภาษีซื้อได้

2. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ขาย

เอกสารจะต้องระบุ:

  • ชื่อจดทะเบียนของบริษัทผู้ขาย (หรือนิติบุคคล/บุคคลธรรมดา)
  • ที่อยู่ของผู้ขายตามทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม
  • เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 13 หลัก (เลขผู้ประกอบการจด VAT)

สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของภาษี และกรมสรรพากรสามารถติดตามได้ว่าผู้ขายมีสิทธิในการออก VAT หรือไม่

3. ชื่อ ที่อยู่ และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีของผู้ซื้อ

แม้ในบางกรณีผู้ซื้ออาจไม่ได้เรียกร้องให้ระบุข้อมูลนี้ แต่หากผู้ซื้อเป็นผู้ประกอบการจด VAT และต้องการนำภาษีไปหัก ภงด.30 จะต้องมีข้อมูลของผู้ซื้อครบถ้วนในใบกำกับภาษี

หากขาดข้อมูลนี้ ผู้ซื้อจะไม่สามารถใช้สิทธิหัก VAT ได้ (แม้มีใบกำกับจริง แต่ขาดข้อมูลผู้ซื้อ ถือว่าใช้สิทธิหักไม่ได้)

4. หมายเลขลำดับของใบกำกับภาษี

ใบกำกับภาษีต้องมี หมายเลขลำดับที่ไม่ซ้ำกัน เพื่อใช้ในการควบคุมและตรวจสอบ
ตัวเลขนี้อาจอยู่ในรูปแบบ RUNNING NO. เช่น INV-2024-001, INV-2024-002 เป็นต้น

💡 หมายเลขต้องเรียงลำดับ ไม่ข้าม ไม่ย้อน ไม่ใช้ซ้ำ
หากมีการออกใบใหม่แทนฉบับเดิม ต้องมีคำว่า “ใบแทนใบกำกับภาษี” ระบุไว้ด้วย

5. วันที่ออกใบกำกับภาษี

วันที่ออกเอกสารต้องเป็นวันเดียวกับวันที่เกิดรายการขาย
หรือไม่เกินวันที่ส่งมอบสินค้า/บริการจริง

📌 ข้อควรระวัง:

  • หากวันออกใบกำกับภาษีและวันส่งของไม่ตรงกัน
    อาจทำให้ช่วงภาษีคลาดเคลื่อน เช่น ออกเอกสารล่วงหน้าแต่ยังไม่ได้ส่งของ

การหัก VAT ต้องทำในรอบภาษีที่ถูกต้องเท่านั้น หากคลาดเคลื่อนจะถือว่าผิดพลาดทางบัญชี

6. รายละเอียดสินค้า หรือบริการ และจำนวนเงิน

ต้องระบุรายละเอียดที่ชัดเจน ได้แก่:

  • รายการสินค้า/บริการ
  • ปริมาณหรือจำนวน
  • หน่วย
  • ราคาต่อหน่วย
  • ยอดรวม
  • อัตราภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บ (ปกติคือ 7%)
  • แยกยอดภาษีออกจากราคาสินค้าอย่างชัดเจน

❌ ห้ามระบุแค่ “ตามใบเสนอราคา” หรือ “ค่าบริการตามตกลง”
✅ ต้องแสดงรายการให้ตรวจสอบได้จริง

7. จำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เรียกเก็บ

ใบกำกับภาษีต้องระบุยอดภาษีมูลค่าเพิ่มแยกต่างหากจากราคาสินค้า เช่น:

รายการราคาไม่รวมภาษีVAT 7%ราคารวม
สินค้า A10,00070010,700

หากเป็นผู้ประกอบการ “VAT Inclusive” ต้องแยก VAT ออกให้ชัดเจน
(แสดงว่าราคานี้รวมภาษีแล้ว แต่ภาษีคิดเท่าไร ต้องชัด)

8. ลายมือชื่อหรือลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ของผู้มีอำนาจ

สุดท้าย ใบกำกับภาษีต้องมีลายเซ็นของผู้มีอำนาจลงนาม หรือเป็นลายเซ็นดิจิทัลกรณีออกเป็น e-Tax Invoice โดยมีมาตรฐานรับรองจาก ETDA

  • ลายเซ็นนี้สามารถพิมพ์ หรือสแกนได้ในระบบทั่วไป
  • หากใช้ระบบ e-Tax ต้องใช้ Digital Signature ที่รับรองตามกฎหมาย

หากไม่มีลายเซ็น หรือลายเซ็นไม่ถูกต้อง เอกสารจะไม่สมบูรณ์ และอาจไม่สามารถหักภาษีซื้อได้

ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย🚫
  • ออกใบกำกับโดยไม่จด VAT
  • ไม่ระบุข้อมูลผู้ซื้อ แต่ผู้นั้นต้องการใช้หักภาษี
  • ยอดภาษีไม่ตรงกับยอดรวมสินค้า
  • ใช้คำอื่นแทนคำว่า “ใบกำกับภาษี”
  • วันออกเอกสารไม่ตรงกับวันที่ส่งของจริง

ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่กรมสรรพากรสามารถใช้เป็นเหตุในการ เพิกถอนสิทธิหักภาษีซื้อ หรือ ลงโทษปรับ ได้ตามกฎหมาย

สรุป

ใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบเป็นเอกสารที่ “ต้องครบถ้วน” และ “ต้องแม่นยำ” เพราะมีผลโดยตรงต่อการบันทึกบัญชี การยื่นภาษีมูลค่าเพิ่ม และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ

✅ ตรวจสอบให้ครบทั้ง 8 จุด
✅ ใช้ระบบบัญชีหรือโปรแกรมออกใบกำกับภาษีที่ได้มาตรฐาน
✅ ให้พนักงานบัญชีหรือฝ่ายขายเข้าใจเงื่อนไขของการออกเอกสารที่ถูกต้อง

หากมีข้อผิดพลาดซ้ำ ๆ ไม่เพียงทำให้เสียสิทธิหักภาษี แต่ยังเสี่ยงถูกตรวจสอบย้อนหลังจากกรมสรรพากร และส่งผลต่อภาพลักษณ์ของกิจการในระยะยาว


ติดต่อบริการทำบัญชี

ติดต่อสำนักงานบัญชี บริษัท กรีนโปร เคเอสพี แอคเคาท์ติ้ง จำกัด
ที่อยู่ 32/8 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 73 (พรกุลวัฒน์) แขวง ออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์: 8.30 – 17.30 น.
แอดไลน์คลิกลิงก์: @greenprokspacc
โทร085-067-4884

Add Friend