ติดต่องานด้านบัญชี
ติดต่องานธุรกิจ ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวต่างชาติ ทั้งในฐานะพนักงาน ผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหาร รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ นักลงทุน หรือฟรีแลนซ์ในสายงานต่าง ๆ โดยเฉพาะในภาคการผลิต เทคโนโลยี การศึกษา และธุรกิจระหว่างประเทศ
แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า ชาวต่างชาติที่เข้ามาทำงานในไทยนั้น มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเช่นเดียวกับคนไทย จำเป็นจะต้อง ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90 หรือ ภ.ง.ด.91) ต่อกรมสรรพากรภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป โดยกรมสรรพากรมีบทบาทสำคัญในการตรวจสอบและรับแบบแสดงรายการภาษีดังกล่าว สำหรับผู้ที่มีเงินได้ในประเทศไทยในปีภาษี ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือชาวต่างชาติ หากทำงานในไทยต้องปฏิบัติตามข้อบังคับทางภาษีอย่างเคร่งครัด ประเทศไทยในปีภาษีมีข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสียภาษีสำหรับชาวต่างชาติที่มีรายได้ในปีภาษีนั้น ๆ ดังนั้น การยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอย่างถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาและบทลงโทษจากกรมสรรพากร
ประเทศไทยใช้หลักเกณฑ์ “ถิ่นที่อยู่” (Tax Residency) โดยใช้เกณฑ์ 180 วันในปี เป็นตัวกำหนดสถานะภาษีว่าบุคคลต้องเสียภาษีจากรายได้ใดบ้าง
ถ้าอาศัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่ 180 วันในปีภาษีนั้นจะถือเป็น “ผู้มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย” (Tax Resident) ในปีภาษีนั้น
ผู้มีถิ่นที่อยู่ จะต้อง:
ผู้ไม่มีถิ่นที่อยู่ (อยู่ไม่ถึง 180 วัน)
เงินได้จากแหล่งต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศต้องนำมาคำนวณภาษี หากมีเงินได้จากแหล่งใดก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดขึ้นในไทยหรือในต่างประเทศ ผู้มีเงินได้ต้องปฏิบัติตามกฎหมายภาษีและยื่นแบบรายการภาษีในช่วงเวลาที่กำหนด
รายได้ที่ต้องนำมายื่นภาษีในประเทศไทยมี 8 ประเภทตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร เช่นเดียวกับคนไทย โดยที่พบบ่อยสำหรับชาวต่างชาติ ได้แก่:
หากมีเงินได้จากต่างประเทศ เช่น รายได้จากการทำงานหรือการลงทุนจากต่างประเทศ และนำเงินได้จากนั้นเข้ามาในประเทศไทย อาจต้องเสียภาษีตามหลักเกณฑ์ของไทยด้วย
ดังนั้น ผู้ที่มีเงินได้ไม่ว่าจะในไทยหรือต่างประเทศ ควรตรวจสอบข้อกำหนดภาษีอย่างรอบคอบ และหากมีเงินได้จากหลายแหล่งควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อความถูกต้องในการยื่นภาษี
ชาวต่างชาติที่มีรายได้ในประเทศไทยจะต้อง:
ขั้นตอนการยื่นแบบดังกล่าวควรตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนและถูกต้องทุกครั้ง
🗓 กำหนดยื่น: ภายในวันที่ 31 มีนาคมของปีถัดไป (เช่น รายได้ปี 2567 ต้องยื่นภาษีภายในวันที่ 31 มีนาคม 2568)
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย ผู้เสียภาษีควรยื่นแบบภาษีอย่างถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด
📌 หากได้รับรายได้จากต่างประเทศ แล้วนำเข้ามาในไทย ✅ ต้องดูว่าเข้ามาภายในปีภาษีนั้นหรือไม่ ✅ ถ้าเข้าภายในปีเดียวกัน = เสียภาษี ✅ ถ้าเข้าปีถัดไป = ไม่เสีย (ตามมาตรา 41 วรรคท้าย)
ประเทศไทยมีข้อตกลงยกเว้นภาษีซ้อนกับกว่า 60 ประเทศ เช่น สหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เยอรมนี ฯลฯ เพื่อให้ไม่ต้องเสียภาษีซ้ำซ้อนทั้งในประเทศบ้านเกิดและในไทย รวมถึงกรณีที่มีรายได้ในต่างประเทศ ก็สามารถใช้ข้อตกลงนี้เพื่อป้องกันการถูกเก็บภาษีซ้ำซ้อนทั้งในไทยและในต่างประเทศได้
ตัวอย่างสิทธิประโยชน์:
การใช้สิทธินี้ต้องแนบ “แบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 54” และเอกสารสนับสนุน เช่น หนังสือรับรองถิ่นที่อยู่จากประเทศต้นทาง (Certificate of Residence)
มีที่อยู่ในประเทศไทยและเสียภาษีตามปกติ ✅ สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีบางรายการได้ เช่น:
สิทธิประโยชน์ดังกล่าวเป็นสิ่งที่สามารถใช้ได้หากมีคุณสมบัติตามที่กำหนด
แม้จะเป็นชาวต่างชาติ แต่หากอยู่ในไทยและมีรายได้
ถ้าไม่ยื่นภาษี = ผิดกฎหมาย เช่นเดียวกับคนไทย
ผลที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่:
ผู้ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมีหน้าที่เสียภาษีเช่นเดียวกับคนไทย หากอยู่ในไทยเกิน 180 วัน จะถูกจัดเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ทางภาษี และอาจต้องเสียภาษีจากรายได้ทั่วโลกที่นำเข้ามาในไทย
ข้อแนะนำดังกล่าวจะช่วยให้ท่านสามารถดำเนินการด้านภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ลดความเสี่ยงทางกฎหมาย และสามารถใช้สิทธิลดหย่อนหรือยกเว้นตามข้อตกลงระหว่างประเทศได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
สำหรับชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย การพิจารณาสถานะการมีถิ่นที่อยู่ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่มีถิ่นที่อยู่ในไทยจะต้องยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (PIT) และอาจได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีหรือสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่นๆ การพิจารณาว่าผู้ที่อยู่ในประเทศไทยเข้าข่าย “มีถิ่นที่อยู่” หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนวันที่อาศัยอยู่ในไทยในปีภาษีนั้น ๆ โดยหากอยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วันในปีปฏิทิน จะถือว่ามีถิ่นที่อยู่ในไทย ต้องยื่นแบบแสดงภาษีเงินได้ตามกฎหมายไทยและสามารถการใช้สิทธิลดหย่อนต่างๆ จึงขึ้นอยู่กับสถานะถิ่นที่อยู่ของแต่ละบุคคล ชาวต่างชาติที่มีถิ่นที่อยู่ในไทยควรตรวจสอบและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนเพื่อยื่นแบบภาษีเงินได้ที่ถูกต้อง
ชาวต่างชาติที่มีถิ่นที่อยู่ในไทยหรือมีรายได้จากแหล่งเงินได้ในประเทศไทย มีโอกาสได้รับสิทธิในการลดหย่อนภาษีตามที่กฎหมายกำหนด การลดหย่อนภาษีเหล่านี้จะช่วยลดภาระภาษีและเพิ่มรายได้สุทธิให้กับชาวต่างชาติที่ต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในไทย ตัวอย่างสิทธิในการลดหย่อน เช่น ค่าลดหย่อนส่วนตัว ค่าลดหย่อนประกันชีวิต หรือเงินสมทบกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ผู้ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยที่มีรายได้ในไทยควรตรวจสอบสิทธิในการลดหย่อนภาษีของตนเอง และยื่นแบบภาษีให้ถูกต้องตามระยะเวลาที่กำหนด เพื่อป้องกันการเสียภาษีเกินความจำเป็นและใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างเต็มที่
ประเทศไทยมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อดึงดูดชาวต่างชาติที่ต้องการลงทุนในประเทศ โดยผู้ที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยที่ลงทุนในกิจกรรมที่ได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี เช่น การลดหย่อนภาษีหรือการยกเว้นภาษีสำหรับรายได้จากกิจกรรมที่ได้รับการส่งเสริม สิทธิประโยชน์เหล่านี้ช่วยให้ชาวต่างชาติที่มีรายได้จากการลงทุนในไทยได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่าและลดภาระภาษีในระยะยาว ทั้งนี้ควรศึกษาข้อกำหนดและเงื่อนไขของแต่ละโครงการส่งเสริมการลงทุนอย่างละเอียด เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่เหมาะสมกับประเภทของรายได้ที่ได้รับ
ปัจจุบันผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีในประเทศไทยสามารถเลือกใช้บริการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบอัตโนมัติผ่านระบบออนไลน์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี วิธีการนี้ช่วยให้การยื่นแบบภาษีเป็นเรื่องง่าย สะดวก และถูกต้องตามกฎหมาย ลดความยุ่งยากในการเตรียมเอกสารและประหยัดเวลาในการดำเนินการ ชาวต่างชาติที่เลือกยื่นแบบภาษีแบบอัตโนมัติจะมั่นใจได้ว่าการยื่นแบบภาษีเงินได้ของตนเป็นไปอย่างครบถ้วนและถูกต้องตามข้อกำหนดของกรมสรรพากร ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการผิดพลาดหรือขาดตกบกพร่องในกระบวนการยื่นภาษีของปีภาษีนั้น ๆ
📌 เพื่อไม่ให้การยื่นชำระภาษีผิดพลาด Greenpro KSP Group ยินดีให้คำปรึกษาทั้งด้านบัญชีและภาษี ทั้งวางแผนภาษี รวมถึงช่วยรักษาสิทธิประโยชน์ของท่านได้ การปฏิบัติตามข้อแนะนำข้างต้นจะช่วยให้การยื่นภาษีของท่านเป็นไปอย่างถูกต้องเพื่อทำการยื่อนภาษีอย่างถูกต้อง
ที่อยู่:
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์ เวลา 8.30 – 17.30 น.
LINE Official Account:
โทรศัพท์: