การโอนย้ายทรัพย์สินระหว่างบริษัทในเครือ ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง?
การขยายธุรกิจนิยมใช้โครงสร้างแบบ “บริษัทในเครือ” หรือ “กลุ่มบริษัท” การโอนย้ายทรัพย์สินระหว่างบริษัทจึงเป็นเรื่องปกติ เช่น
- บริษัทแม่โอนรถยนต์ให้บริษัทลูกใช้
- บริษัทในเครือโอนสิทธิการเช่าโรงงานให้กัน
- ย้ายเครื่องจักรหรืออุปกรณ์สำนักงานไปใช้งานร่วมกัน
แม้จะเป็นกลุ่มบริษัทเดียวกัน แต่การโอนทรัพย์สินก็ถือเป็น “ธุรกรรมที่มีผลทางกฎหมายและภาษี” ซึ่งหากไม่ดำเนินการให้ถูกต้อง อาจถูกเรียกตรวจย้อนหลัง และมีผลกระทบต่อภาษีหรือการบริหารงบการเงิน
เข้าใจก่อนว่า “การโอนย้ายทรัพย์สิน” คืออะไร?
การโอนย้ายทรัพย์สิน หมายถึงการเปลี่ยนกรรมสิทธิ์หรือสิทธิการใช้จากบริษัทหนึ่งไปยังอีกบริษัทหนึ่ง โดยอาจเป็นการ
- โอนขาย
- โอนให้เปล่า
- โอนตามราคาประเมินบัญชี
- โอนเพื่อการปรับโครงสร้างธุรกิจ
ไม่ว่าจะเป็นการโอนด้วยรูปแบบใด ต้องมีการดำเนินเอกสารตามกฎหมาย และส่งผลต่อการลงบัญชีและภาษี
ประเภททรัพย์สินที่พบในการโอนระหว่างบริษัทในเครือ
ประเภท | ตัวอย่าง |
🔹 สินทรัพย์ถาวร | อาคาร, เครื่องจักร, คอมพิวเตอร์ |
🔹 ทรัพย์สินทะเบียน | รถยนต์, รถบรรทุก, เครื่องจักรหนัก |
🔹 สิทธิการเช่า | เช่าโรงงาน, ที่ดิน, พื้นที่ออฟฟิศ |
🔹 ทรัพย์สินไม่มีตัวตน | ซอฟต์แวร์, เครื่องหมายการค้า |
🔹 สินค้าคงคลัง | วัตถุดิบ, ผลิตภัณฑ์, สินค้าในสต๊อก |
ต้องจดทะเบียนอะไรบ้าง? (แยกตามประเภททรัพย์สิน)
1. สินทรัพย์ถาวร (ที่ไม่ต้องจดทะเบียนภายนอก เช่น คอมพิวเตอร์ โต๊ะ เก้าอี้)
- ต้องทำ เอกสารโอน/ขายทรัพย์สินระหว่างบริษัท
- ออกใบกำกับภาษี (ถ้ามี VAT)
- ลงบัญชีฝ่ายรับเป็น “สินทรัพย์รับโอน”
- ฝ่ายโอนต้อง “ตัดบัญชีสินทรัพย์” และรับรู้กำไร/ขาดทุนจากการโอน
2. รถยนต์ รถบรรทุก เครื่องจักรหนัก
- จดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์ที่ กรมการขนส่งทางบก หรือหน่วยงานที่ดูแลทะเบียน
- ใช้เอกสารประกอบ:
- สำเนาหนังสือรับรองบริษัท
- บัตรประชาชนกรรมการผู้มีอำนาจ
- สำเนาทะเบียนรถ
- ใบเสร็จการซื้อขายหรือใบกำกับภาษี
หากไม่โอนทะเบียน กฎหมายยังถือว่ารถเป็นของบริษัทเดิม และมีผลต่อภาษี-ความรับผิดชอบ
3. สิทธิการเช่า อาคาร ที่ดิน โรงงาน
- ต้องทำ หนังสือโอนสิทธิการเช่า พร้อมแนบสัญญาเดิมและบันทึกแนบท้าย
- แจ้งผู้ให้เช่ารับทราบ
- อาจมีค่าอากรแสตมป์กรณีมีผลเชิงพาณิชย์
4. อสังหาริมทรัพย์ (ที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง)
- ต้องโอนที่ กรมที่ดิน พร้อมจ่ายค่าธรรมเนียม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- เอกสารประกอบ:
- โฉนดที่ดิน
- หนังสือรับรองบริษัททั้งสองฝ่าย
- บันทึกประชุมอนุมัติการโอน
- แบบ ภ.ง.ด. และใบเสร็จชำระภาษี
5. ทรัพย์สินไม่มีตัวตน (ลิขสิทธิ์, เครื่องหมายการค้า)
- โอนโดยทำ หนังสือโอนสิทธิ
- จดทะเบียนการเปลี่ยนชื่อเจ้าของกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา (ถ้ามีการจดสิทธิบัตร/เครื่องหมายการค้า)
- ต้องประเมินมูลค่าเพื่อคำนวณภาษีที่เกี่ยวข้อง
ผลกระทบทางภาษี
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
- หากทรัพย์สินที่โอนเป็นสินทรัพย์ที่เคยมี VAT (เช่น รถยนต์, เครื่องจักร) ต้องออกใบกำกับภาษี
- บริษัทผู้รับสามารถใช้ VAT นี้เป็น ภาษีซื้อ
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
- กำไรจากการโอนถือเป็นรายได้ของฝ่ายโอน
- หากโอนให้เปล่า ฝ่ายโอนอาจต้องถือว่าขาดทุนจากการโอน ซึ่งอาจถูกสรรพากรตั้งข้อสงสัยเรื่องเจตนา “หนีภาษี”
ภาษีธุรกิจเฉพาะ / อากรแสตมป์
- โอนอสังหาริมทรัพย์ = ต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ
- ทำหนังสือโอนสิทธิ์ = ต้องติดอากรแสตมป์ (0.1% ของมูลค่า)
ข้อแนะนำ: ควรประเมินมูลค่าทรัพย์สินตามราคาตลาดหรือราคาประเมินบัญชี พร้อมแนบรายงานตรวจสอบภายในหรือที่ปรึกษาภาษี
ต้องแจ้งหน่วยงานใดบ้าง?
หน่วยงาน | กรณีต้องแจ้ง |
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) | หากมีการเปลี่ยนแปลงสินทรัพย์หลักของกิจการ หรือสถานที่ประกอบการ |
กรมสรรพากร | กรณีมีการออกใบกำกับภาษี การหักภาษี ณ ที่จ่าย หรือคำนวณภาษีเงินได้ |
กรมที่ดิน | สำหรับการโอนอสังหาริมทรัพย์ |
กรมขนส่งทางบก | โอนทะเบียนรถ |
กรมทรัพย์สินทางปัญญา | โอนสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า |
ข้อควรระวังและคำแนะนำ
- หลีกเลี่ยงการโอนแบบ “ให้เปล่า” เพราะอาจถูกตีความว่าเป็นการเบียดบังผลประโยชน์ผู้ถือหุ้น
- ใช้ราคาตลาดที่มีที่มาชัดเจน และให้กรรมการทั้งสองบริษัทอนุมัติการโอน
- ควรมีการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน และบันทึกบัญชีอย่างถูกต้อง
- เก็บสำเนาเอกสารการโอนทั้งหมดอย่างน้อย 5 ปี เพื่อประกอบการตรวจสอบย้อนหลัง
สรุปโอนย้ายทรัพย์สินระหว่างบริษัทในเครือ ไม่ใช่แค่โยกของ
การโอนย้ายทรัพย์สินระหว่างบริษัทในเครือแม้ดูเหมือนเรื่อง “ภายใน” แต่ในทางกฎหมายและภาษี ถือว่าเป็น ธุรกรรมที่มีผลสมบูรณ์เต็มรูปแบบ ไม่ต่างจากการซื้อขายกับบุคคลภายนอก
หากดำเนินการผิดพลาด อาจถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ค่าปรับ หรือเสียความน่าเชื่อถือทางบัญชี