ออกใบกำกับภาษีแต่ไม่ได้จด VAT ผิดหรือไม่? เรื่องที่คนทำธุรกิจพลาดจนโดนค่าปรับแบบไม่รู้ตัว
ในโลกของคนทำธุรกิจ“ใบกำกับภาษี” เป็นคำที่หลายคนทำธุรกิจมักได้ยินบ่อยมาก ไม่ว่าจะตอนดำเนินกิจการ ทำงานร่วมกับบริษัทใหญ่ ตอนยื่นเอกสารเบิกค่าใช้จ่าย หรือตอนที่ลูกค้าถามว่า “ขอใบกำกับภาษีด้วยนะคะ” แต่รู้ไหมว่า มีเจ้าของกิจการจำนวนไม่น้อยที่ยังสับสนอยู่ว่า เราจะแค่ “ออกใบเสร็จ” ให้ลูกค้าพอไหม? หรือจริง ๆ แล้วลูกค้ากำลังขอ “ใบกำกับภาษี” ที่มี VAT 7%? ด้วย
ปัญหามันเกิดขึ้นตอนที่หลายธุรกิจยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน VAT แต่ลูกค้ากลับขอใบกำกับภาษี และเมื่ออยากให้ดูเป็นมืออาชีพ กิจการเลยออกใบกำกับภาษีไปแบบไม่ได้คิดอะไร แต่เอกสารใบเดียวนี้ สามารถทำให้สรรพากรเรียกตรวจย้อนหลังได้สูงสุดถึง 5 ปีเลย
เรื่องแบบนี้มักเกิดกับ SME เพราะเจ้าของกิจการมักเข้าใจว่า “ใบเสร็จ = ใบกำกับภาษี” ซึ่งจริง ๆ แล้วมันไม่เหมือนกันเลย และในแง่ของกฎหมายภาษี ใบกำกับภาษีถือเป็นเอกสารที่มีความสำคัญ เมื่อกิจการเก็บ VAT จากลูกค้า และต้องส่ง VAT ให้รัฐ ดังนั้นที่จะออกเอกสารนี้ได้ จะต้อง “ขึ้นทะเบียน VAT” ก่อนเท่านั้น หากกิจการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิ์ถือว่าผิดกฎหมายทันทีตั้งแต่ออกใบแรก
คำถามคือ ถ้ายังไม่ได้ขึ้น VAT แต่ออกใบกำกับภาษีไปแล้วจะเกิดอะไรขึ้น?
หลายคนไม่เคยคิดว่ามันจะร้ายแรงอะไร แต่ในความจริงมันเกี่ยวกับเงินภาษีของรัฐโดยตรง และกฎหมายก็กำหนดชัดเจนว่า ถ้าคุณออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิ์ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ก็ถือว่ามีความผิด
บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลแบบเข้าใจง่าย สำหรับผู้ประกอบการเพื่อทำความเข้าใจเรื่องการออกใบกำกับภาษีอย่างถูกต้องไว้หมดแล้ว มาเริ่มอ่านกันได้เลย
ใบกำกับภาษี คืออะไร?
ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) เป็นเอกสารสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการประกอบกิจการ เพื่อแสดงมูลค่าสินค้าหรือบริการ แสดงจำนวน VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) และใช้เป็นหลักฐานให้ผู้ซื้อไปเครดิตภาษีซื้อหรือเป็นค่าใช้จ่ายทางบัญชี
ดังนั้น ใบกำกับภาษีจึงเป็นเอกสารเฉพาะทางที่ต้องใช้เมื่อคู่ค้าต้องการเครติดภาษีหรือเป็นธุรกิจที่อยู่ในระบบ VAT


ผู้ที่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษี
ผู้ประกอบการที่มีสิทธิ์ออกใบกำกับภาษีได้จะต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT) ก่อนและต้องได้รับเอกสารยืนยันจากกรมสรรพากรก่อน เช่น
- ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20)
- หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
ถ้ายังไม่จด VAT จะไม่มีสิทธิ์เรียกเก็บและออกใบกำกับภาษีให้ลูกค้า และถ้าออกจะถือว่ามีความผิด
ทำไมใบกำกับภาษี ถึงสำคัญขนาดนั้น?
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า ใบกำกับภาษี (Tax Invoice) เป็นเอกสารที่ออกได้เฉพาะผู้ประกอบการที่ขึ้นทะเบียน VAT แล้วเท่านั้น เพราะในใบกำกับภาษีมีตัวเลขสำคัญคือ
- มูลค้าสินค้า
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT 7%)
- เลขประจำตัวผู้ประกอบการ VAT
- ชื่อ–ที่อยู่ผู้ซื้อผู้ขาย

ดังนั้นถ้ากิจการยังไม่ได้จด VAT แต่ออกเอกสารใบนี้ เท่ากับว่ากำลังออกเอกสารที่กฎหมายจำกัดสิทธิ์เฉพาะบางคนเท่านั้น เหมือนใช้บัตรประชาชนของคนอื่นซึ่งผิดกฎหมาย
ถ้ายังไม่จด VAT แต่ลูกค้าขอใบกำกับภาษี ต้องทำไง?
หากลูกค้ามาใช้บริการหรือซื้อสินค้าแล้วต้องการใบกำกับภาษีเพื่อนำค่าใช้จ่ายไปหักภาษีซื้อหรือเครดิตภาษีซื้อ จึงต้องการใบกำกับภาษีทุกครั้ง
แต่ถ้ากิจการมีรายได้ยังไม่ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี จึงยังไม่ต้องจดVAT จำเป็นต้องปฎิเสธลูกค้าและออกเป็นบิลใบเสร็จรับเงินสดแทน แต่ลูกค้านำไปเครดิตภาษีซื้อไม่ได้
ตัวอย่างที่ออกใบกำกับภาษีผิดโดยไม่ตั้งใจ
- กิจการออกเอกสารแล้วเขียนว่า “ราคานี้รวม VAT แล้ว” ทั้งที่ยังไม่ได้อยู่ในระบบVAT = ผิดกฎหมาย
- ออกใบเสร็จแต่ขึ้นคำว่า “Tax Invoice / Receipt” ถือว่าเป็นใบกำกับภาษีโดยอ้อม = ผิดกฎหมาย
- ใช้โปรแกรมออกบิลที่มีช่อง VAT แบบอัตโนมัติ ถ้าระบุ VAT ไว้แม้แต่ครั้งเดียว = ผิดกฎหมาย
- ถึงลูกค้าจะไม่ไปยื่นเครกิตภาษีซื้อ แต่ถ้าสรรพากรตรวจแล้วเจอว่ากิจการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิ์หรือไม่ได้อยู่ในระบบVAT เมื่อไหร่ = ผิดกฎหมาย และต้องจ่ายค่าปรับเงินเพิ่ม ตามที่กำหนด
ถ้าออกใบกำกับภาษีโดยไม่ได้จด VAT มีความผิดอะไรบ้าง?
1. กิจการออกใบกำกับภาษีโดยไม่มีสิทธิ์
สรรพากรถือว่ากิจการแอบอ้างว่าเป็นผู้ประกอบการที่จด VATแล้ว เท่ากับว่าให้ข้อมูลเท็จต่อรัฐ
2. กิจการเก็บ VAT โดยไม่มีสิทธิ์
บางกิจการไม่จด VAT แต่เก็บ 7% จากลูกค้า กรณีนี้มีความผิดหนักกว่าเดิม เพราะเก็บภาษีแต่ไม่ส่งรัฐ
3. ใช้เอกสารปลอมทางภาษี
ลูกค้าที่นำใบกำกับภาษีนี้ไปใช้หักภาษีขายก็จะเดือดร้อนไปด้วย เพราะเครดิตภาษีซื้อจะถูกปฏิเสธทันที
และมีความผิดทั้งทางแพ่งและอาญา
วิธีแก้ไขถ้าออกใบกำกับภาษี ทั้งที่ยังไม่ได้จด VAT
- กิจการต้องหยุดออกใบกำกับภาษี
- ติดต่อสรรพากรเพื่อชี้แจงว่ามีการออกเอกสารผิดประเภท และต้องการแก้ไขชำระภาษีที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- แจ้งลูกค้าทันทีว่ากิจการยังไม่ได้จด VAT และใบกำกับภาษีที่ออกให้ไม่สามารถใช้เครดิตภาษีได้ หลังจากแก้ไขเรียบร้อยแล้วควรออกเอกสารใบเสร็จรับเงินใหม่ให้ลูกค้าแทน
ทำไมหลายธุรกิจถึงพลาดเรื่องนี้?
1. ลูกค้าบางบริษัทจะขอใบกำกับภาษีเสมอ
โดยเฉพาะถ้าลูกค้าเป็นกลุ่มบริษัท หน่วยงานรัฐ และองค์กรใหญ่ จะไม่รับใบเสร็จธรรมดา แต่ต้องการใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ
2. เจ้าของกิจการคิดว่าใบเสร็จก็คือใบกำกับภาษี
- ใบเสร็จ คือเอกสารที่ออกเพื่อยืนยันว่าลูกค้าจ่ายเงินแล้ว
- ใบกำกับภาษี คือเอกสารภาษีที่ออกได้เฉพาะผู้ประกอบการที่จด VAT แล้วเท่านั้น
3. ไม่รู้ว่าเอกสารประเภทไหนออกได้–ออกไม่ได้
หลายร้านออกใบกำกับภาษีทั้งที่คิดว่าเป็นแค่ใบเสร็จธรรมดา ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนออก เพื่อไม่ให้มีปัญหาเกิดขึ้นในภายหลัง
4. ไม่อยากเสียดีลกับลูกค้า
ลูกค้าขอใบกำกับแต่กิจการยังไม่ได้จด VAT แต่อยากได้งานเลยออกให้ก่อนแล้วสุดท้ายกลายเป็นปัญหาใหญ่ตามมาในภายหลังที่ถึงขั้นเสียค่าปรับเงินเพิ่มได้
ข้อแนะนำเพื่อไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต
- บอกลูกค้าทุกครั้งว่ากิจการสามารถออกได้แค่ “ใบเสร็จรับเงิน” เท่านั้นเพราะไม่อยู่ในระบบ VAT
- ห้ามใช้คำว่า “Tax Invoice”, “VAT 7%”, “ภาษีมูลค่าเพิ่ม”
- ถ้าทำการค้ากับลูกค้าที่เป็นบริษัทเยอะ ควรจด VAT ตั้งแต่แรก เพื่อให้ออกได้อย่างถูกต้อง
เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคตควรให้สำนักงานบัญชีช่วยตรวจเอกสารก่อนใช้งานจริง เพราะระบบภาษีผิดแม้แค่คำเดียว ก็อาจโดนปรับได้
ใบเสร็จและใบกำกับภาษี ต่างกันยังไง?
- ใบเสร็จ คือเอกสารที่ออกเพื่อยืนยันว่าลูกค้าจ่ายเงินให้แล้ว เป็นหลักฐานการชำระเงินที่ใช้ได้กับทุกธุรกิจ ไม่ว่าจะ
- จดVAT หรือไม่จดVAT
- ร้านค้าเล็ก ๆ
- ขายของออนไลน์
- บริษัท
แต่สิ่งที่ทำให้ใบเสร็จมีคุณสมบัติต่างจากใบกำกับภาษี คือ
- ใบเสร็จเป็นเพียงหลักฐานในการรับชำระเงิน
- ลูกค้าไม่สามารถนำใบเสร็จรับเงินไปใช้เป็นหลักฐานในการหัก “ภาษีขาย” ได้
ใบเสร็จ = หลักฐานการรับเงินทั่วไป ไม่เกี่ยวกับ VAT
- ใบกำกับภาษี คือเอกสารภาษีที่ออกได้เฉพาะผู้ประกอบการที่จด VAT แล้วเท่านั้น เพราะใบนี้มี VAT 7% และสามารถนำไปใช้เพื่อ
- หักภาษีขาย
- ส่งให้สรรพากรตรวจสอบได้
ความสำคัญของใบกำกับภาษี
- ลูกค้านำไปหักกับภาษีขายได้
- เป็นเอกสารที่สรรพากรใช้ตรวจสอบ
- ออกผิดหรือออกโดยไม่มีสิทธิ์ = ผิดกฎหมาย
ใบกำกับภาษี = เอกสาร VAT ที่สำคัญ ใช้ได้เฉพาะธุรกิจที่จด VAT แล้วเท่านั้น
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับใบเสร็จและใบกำกับภาษี

ลูกค้าขอใบกำกับภาษี แต่เรายังไม่จด VAT ทำอย่างไรดี?
ลูกค้าขอใบกำกับภาษี แต่เรายังไม่จด VAT ทำอย่างไรดี?
ต้องออกใบเสร็จรับเงิน ให้ลูกค้าและอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่ากิจการไม่ได้อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มไม่สามารถออกใบกำกับภาษีได้ และถ้าธุรกิจต้องออกบ่อย แนะนำให้จด VAT เพื่อทำงานแบบถูกต้องและถ้ากิจการมีรายได้ตั้งแต่ 1.8 ล้านบาทต่อปีกฎหมายบังคับให้ต้องเข้าสู่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม
ใบเสร็จกับใบกำกับภาษีเหมือนกันไหม?
ใบเสร็จกับใบกำกับภาษีเหมือนกันไหม?
ไม่เหมือนกันค่ะ ใบเสร็จคือหลักฐานการรับเงิน ส่วนใบกำกับภาษีคือเอกสารภาษีที่ต้องมี VAT 7% และออกได้เฉพาะคนที่จด VAT แล้วเท่านั้น
ใบเสร็จใช้แทนใบกำกับภาษีได้ไหม?
ใบเสร็จใช้แทนใบกำกับภาษีได้ไหม?
ไม่ได้ค่ะ ลูกค้าไม่สามารถนำไปหักภาษีขายได้ และสรรพากรไม่นับเป็นเอกสารภาษีตามกฎหมาย VAT
สรรพากรเข้าตรวจใบกำกับภาษีย้อนหลังได้กี่ปี?
สรรพากรเข้าตรวจใบกำกับภาษีย้อนหลังได้กี่ปี?
กิจการควรเก็บรักษาเอกสารบัญชีภาษีไว้อย่างเป็นระเบียบ เพราะสรรพากรสามารถเข้าตรวจสอบใบกำกับภาษีย้อนหลังสูงสุดถึง 5 ปี
ถ้าออกบิลเงินสด เขาเอาไปลดภาษีได้ไหม?
ถ้าออกบิลเงินสด เขาเอาไปลดภาษีได้ไหม?
สามารถนำไปลดค่าใช้จ่ายได้ในงบบริษัทได้ แต่ลดภาษี VAT ภาษีขายไม่ได้
สรุป
เอกสารแต่ละแบบมีหน้าที่ต่างกันมาก การออกผิดใบอาจทำให้ทั้งเจ้าของธุรกิจและลูกค้าเดือดร้อนในเรื่องภาษีโดยไม่จำเป็น หากยังไม่จด VAT ห้ามออกใบกำกับภาษีเด็ดขาด และถ้าธุรกิจเริ่มมีลูกค้าต้องการเอกสารภาษีบ่อยขึ้น ก็ควรเริ่มพิจารณาขึ้นทะเบียน VAT เพื่อทำงานได้อย่างถูกต้องและน่าเชื่อถือมากขึ้น แต่เมื่อกิจการมีรายได้ที่ไม่อยู่ในกลุ่มประเภทที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี กฎหมายกำหนดให้ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มภายใน 30 วัน ถ้าไม่ทำมีโทษทั้งเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม นับจากวันที่รายได้เกิน 1.8 ล้านบาท
สำหรับกิจการที่ยังไม่จด VAT สามารถออกเอกสารอื่น ๆ ที่ถูกต้องแทนใบกำกับภาษีได้ คือ
- ใบเสร็จรับเงิน
- ใบแจ้งหนี้
- ใบเสนอราคา
- ใบวางบิล
ถ้าหากกิจการมีความจำเป็นต้องออกใบกำกับภาษีบ่อย ๆ หรือต้องทำการค้ากับบริษัท เราแนะนำให้กิจการเริ่มวางแผนการจด VAT เพื่อสามารถออกใบกำกับภาษีได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย