 ติดต่องานด้านบัญชี
 ติดต่องานด้านบัญชี    ติดต่องานธุรกิจ
 ติดต่องานธุรกิจ 	
ในโลกของธุรกิจจริง “กำไรมาก ไม่ได้แปลว่าธุรกิจไม่เจ๊ง” เจ้าของ SME จำนวนไม่น้อยที่แม้ยอดขายจะดูดี มีกำไรอยู่บนกระดาษบัญชี แต่กลับเจอปัญหาใหญ่คือ “เงินสดไม่พอใช้” หรือที่เรียกว่า “ขาดสภาพคล่อง” ต้องหมุนเงินวันชนวัน ยืมเงินหมุนจ่ายพนักงาน หรือแย่กว่านั้นคือต้องปิดกิจการทั้งที่ยังมีลูกค้า ปัญหานี้ไม่ได้เกิดจาก “ยอดขาย” เสมอไป แต่มักเกิดจาก การบริหารกระแสเงินสดที่ไม่ดีพอ ซึ่งเป็นทักษะที่เจ้าของธุรกิจ SME จำเป็นต้องมีอย่างยิ่ง
แม้ธุรกิจจะมีกำไร แต่หากเงินสดไม่หมุนเวียนพอ ธุรกิจอาจเจ๊งได้ทั้งที่ยังขายดี
สิ่งแรกที่เจ้าของ SME ต้องทำคือ เปิดบัญชีธุรกิจแยกต่างหาก เพื่อให้รู้ว่าธุรกิจมีรายรับ–รายจ่ายเท่าไร ไม่ให้ใช้เงินส่วนตัวมาปนกันจนคุมไม่ได้
การวางแผนกระแสเงินสด (Cash Flow) จะช่วยให้คุณรู้ว่า
ใช้ไฟล์ Excel ง่าย ๆ หรือโปรแกรมบัญชีช่วยได้ เช่น FlowAccount, Peak, QuickBooks
หากคุณเก็บเงินลูกค้าใน 30 วัน แต่ต้องจ่ายซัพพลายเออร์ใน 15 วัน = ขาดทุนกระแสเงินสดแน่นอน
ควรต่อรองเงื่อนไขการจ่ายให้เป็น 30 วัน หรือ 45 วัน เพื่อให้เงินหมุนคล่อง
ธุรกิจควรมี เงินสำรองหมุนเวียนขั้นต่ำ 1–3 เท่าของค่าใช้จ่ายประจำเดือน
เช่น หากคุณมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท ควรมีเงินสำรองในบัญชีอย่างน้อย 100,000–150,000 บาท
| รายรับ – รายจ่าย | จำนวนเงิน | 
| รายรับเฉลี่ย/เดือน | 100,000 | 
| ค่าเช่า + เงินเดือน | 40,000 | 
| ค่าวัตถุดิบ | 30,000 | 
| ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ | 10,000 | 
| กำไรสุทธิ | 20,000 | 
สรุป การหมุนเงินอย่างมีระบบคือ “หัวใจสำคัญ” ของการอยู่รอดของธุรกิจ SME ในทุกสถานการณ์
แม้ว่ายอดขายจะดี แต่หากคุณ ไม่วางแผนกระแสเงินสด ก็อาจเจอภาวะเงินขาดมือ จนทำให้ธุรกิจชะงักหรือถึงขั้นล้มได้ เจ้าของธุรกิจที่ดีไม่ใช่แค่ “ขายเก่ง” แต่ต้อง “หมุนเงินเป็น” ด้วย