การขายสุราสามารถขายได้และไม่ได้ในช่องทางไหนบ้าง

การขายสุราสามารถขายได้และไม่ได้ในช่องทางไหนบ้าง

“สุรา” หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นสินค้าที่ถูกกฎหมาย แต่ก็เป็นสินค้าที่รัฐควบคุมอย่างเข้มงวด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสุขภาพสาธารณะ ความปลอดภัย และการเก็บภาษีของรัฐ ผู้ประกอบการจำนวนมากจึงเกิดคำถามว่า “สามารถขายสุราได้ในช่องทางใดบ้าง และห้ามขายในช่องทางใด?”

การเข้าใจข้อกฎหมายและข้อจำกัดอย่างละเอียด เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้ที่ต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับสุรา เพื่อป้องกันการกระทำผิดโดยไม่รู้ตัว และสร้างธุรกิจให้มั่นคงในระยะยาว

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขายสุรา

  1. การผลิต การขาย หรือการนำเข้าสุราต้องได้รับอนุญาตจากกรมสรรพสามิต
  2. สุราเป็นสินค้าที่ต้องเสียภาษีสรรพสามิตทุกครั้งที่มีการผลิตหรือนำเข้า
  3. กำหนดข้อห้าม เช่น ห้ามขายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามขายในสถานที่และช่วงเวลาที่กำหนด
  4. ห้ามการขายสุราผ่านช่องทางออนไลน์ทุกกรณี

ช่องทางที่สามารถขายสุราได้อย่างถูกกฎหมาย

1. ร้านค้า/ร้านชำที่มีใบอนุญาต

  • ร้านค้าปลีกที่ได้รับ ใบอนุญาตขายปลีกสุรา จากกรมสรรพสามิต
  • ต้องแสดงใบอนุญาตในที่เปิดเผย
  • ขายได้ตามเวลาที่กฎหมายกำหนด (11.00–14.00 น. และ 17.00–24.00 น.)

2. ร้านสะดวกซื้อ

  • เช่น 7-Eleven, Lotus’s Go Fresh, Top daily
  • ต้องมีใบอนุญาตขายปลีกสุรา
  • มีการควบคุมการขายตามอายุผู้ซื้อ

3. ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า

  • เช่น Big C, Tops, Villa Market
  • สามารถจำหน่ายสุราได้ แต่ต้องมีโซนจำหน่ายเฉพาะ และปฏิบัติตามเวลาที่กฎหมายอนุญาต

4. ร้านอาหารและภัตตาคาร

  • หากร้านมีใบอนุญาตขายสุรา สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ลูกค้าบริโภคในร้านได้
  • ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด เช่น ไม่ขายให้ผู้เยาว์ และไม่ขายในช่วงเวลาห้าม

5. ผับ บาร์ คาราโอเกะ (ที่ได้รับอนุญาต)

  • ต้องขอใบอนุญาตจำหน่ายสุราสำหรับสถานบริการโดยเฉพาะ
  • อยู่ภายใต้การควบคุมของ พ.ร.บ.สถานบริการ พ.ศ. 2509 และ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

6. โรงแรม

  • โรงแรมที่ได้รับอนุญาตขายสุราสามารถจำหน่ายให้แขกในโรงแรมหรือร้านอาหารภายในโรงแรมได้
  • ต้องมีใบอนุญาตและปฏิบัติตามเวลาที่กำหนด

7. งานเทศกาล/งานเลี้ยงที่ได้รับอนุญาตชั่วคราว

  • หากมีการจัดงานเทศกาล หรืองานเลี้ยง สามารถขออนุญาตจำหน่ายสุราแบบชั่วคราวได้จากเจ้าหน้าที่

ช่องทางที่ไม่สามารถขายสุราได้

1. ออนไลน์ / Ecommerce 

  • ห้ามขายสุราผ่าน Facebook, LINE, Instagram, Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือเว็บไซต์อื่น ๆ
  • รวมถึงห้ามโพสต์ข้อความรับออเดอร์ออนไลน์ แม้จะส่งสินค้าจากร้านที่มีใบอนุญาตก็ตาม

2. ขายให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี

  • แม้จะขายหน้าร้าน ก็ถือว่าผิดกฎหมาย

3. ขายในช่วงเวลาห้ามขาย

  • เช่น 14.00–17.00 น. และหลังเที่ยงคืนถึง 11.00 น. ของวันถัดไป
  • รวมถึงห้ามขายในวันสำคัญทางศาสนาที่กำหนดโดยรัฐ

4. ขายในสถานที่ห้ามขาย

  • วัด สถานศึกษา สวนสาธารณะ ปั๊มน้ำมัน
  • สถานที่ราชการ และสถานที่ตามที่กฎหมายกำหนด

5. ขายผ่านตู้จำหน่ายอัตโนมัติ

  • เนื่องจากไม่สามารถตรวจสอบอายุผู้ซื้อได้

6. การขายแบบเร่/ขายในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต

  • เช่น แผงลอยบนทางเท้า ขายตามสนามกีฬา

โทษของการขายสุราในช่องทางที่ผิดกฎหมาย

  1. โทษปรับ
    • ขายโดยไม่มีใบอนุญาต → ปรับสูงสุด 10,000 บาท
    • ขายออนไลน์ → ปรับสูงสุด 50,000 บาท
    • ขายให้ผู้เยาว์ → ปรับสูงสุด 20,000 บาท
  2. โทษจำคุก
    • บางกรณีมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ถึง 1 ปี
  3. การเพิกถอนใบอนุญาต
    • หากฝ่าฝืนซ้ำ อาจถูกเพิกถอนใบอนุญาตขายสุรา

แนวทางสำหรับผู้ประกอบการ

  1. ทำธุรกิจอย่างโปร่งใส
    • ขอใบอนุญาตถูกต้อง
    • ขายเฉพาะในเวลาที่อนุญาต
  2. ใช้สื่อออนไลน์อย่างระมัดระวัง
    • ใช้เพื่อประชาสัมพันธ์ เช่น เวลาเปิด-ปิด ที่ตั้งร้าน แต่ห้ามขายหรือรับออเดอร์
  3. ฝึกอบรมพนักงาน
    • ให้พนักงานตรวจบัตรประชาชนก่อนขายสุรา
    • สื่อสารข้อกฎหมายพื้นฐานให้เข้าใจ
  4. ติดตามข่าวสารกฎหมายใหม่ ๆ
    • กฎหมายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อาจมีการเปลี่ยนแปลง
    • ผู้ประกอบการควรอัปเดตข้อมูลเสมอ

สรุป

การขายสุราในประเทศไทย ขายได้เฉพาะในช่องทางที่กฎหมายอนุญาต เช่น ร้านค้า ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านอาหาร โรงแรม หรือผับบาร์ที่มีใบอนุญาตถูกต้อง และต้องขายตามเวลาที่กำหนด

ในทางตรงกันข้าม ห้ามขายสุราในช่องทางออนไลน์ ห้ามขายให้ผู้เยาว์ ห้ามขายในช่วงเวลาหรือสถานที่ต้องห้าม หากฝ่าฝืนมีโทษปรับ จำคุก และอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต

ดังนั้น ผู้ประกอบการที่ต้องการทำธุรกิจสุรา ควรปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อความยั่งยืน ปลอดภัย และรักษาความน่าเชื่อถือของธุรกิจในระยะยาว