

การนำของส่วนตัวมาขายจะต้องเสียภาษีหรือไม่? ในยุคที่ใคร ๆ ก็ขายของออนไลน์ได้ง่าย แค่มีสมาร์ตโฟนและแอป Shopee, Facebook Marketplace หรือ TikTok Shop
หลายคนเริ่มจาก “เอาของส่วนตัวมาขาย” เช่น เสื้อผ้าเก่า กระเป๋า รองเท้า หรือของที่ไม่ใช้แล้ว
แต่คำถามที่มักเกิดขึ้นคือ
“แบบนี้ต้องเสียภาษีไหม?”
“กรมสรรพากรจะมองว่าเป็นรายได้ต้องยื่นภาษีหรือเปล่า?”
บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจประเด็นนี้ในเชิงลึก โดยอิงจากกฎหมายภาษีไทย พร้อมคำแนะนำในการปฏิบัติอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันความเสี่ยงในการโดนตรวจสอบย้อนหลัง
ตาม ประมวลรัษฎากร มาตรา 39 – 40 กำหนดให้
รายได้ที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการ หรือการค้าขาย ถือเป็นเงินได้ต้องเสียภาษี
แต่… ในกรณี “ขายของส่วนตัว” ที่คุณใช้เอง ไม่ได้ซื้อมาเพื่อค้ากำไร กรมสรรพากรมัก ไม่ถือว่าเป็นรายได้ต้องเสียภาษี
เพราะถือว่าเป็นการจำหน่ายทรัพย์สินส่วนตัว ไม่ใช่กิจการค้า
📌 ตัวอย่างที่ไม่เสียภาษี:
หากมีลักษณะดังนี้ กรมสรรพากรอาจพิจารณาว่าเข้าข่าย “ประกอบธุรกิจ” แล้วต้องเสียภาษี:
📌 ถ้ากรมสรรพากรตรวจพบว่ามีลักษณะใกล้เคียงการค้า อาจตีความว่าเป็น “เงินได้ตามมาตรา 40(8)” ต้องยื่นภาษี
หรือหากมีการซื้อ–ขายสินค้า อาจเข้าข่าย “ผู้ประกอบการจด VAT” ถ้าเกิน 1.8 ล้านบาทต่อปี
📌 หลายคนขายดีจนยอดเกินแบบไม่รู้ตัว → โดนสรรพากรเรียกตรวจย้อนหลัง
ส่วนใหญ่ไม่เกี่ยวกับการขายของส่วนตัวทั่วไป แต่หากเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์ / ทรัพย์สินบางประเภท อาจต้องพิจารณาเฉพาะกรณี
ในปัจจุบัน กรมสรรพากรมีเครื่องมือมากมายในการตรวจสอบรายได้จากการค้าขายออนไลน์ เช่น
หากตรวจพบว่าเป็นกิจกรรมเพื่อการค้า แต่ไม่ยื่นภาษี อาจโดนประเมินภาษีย้อนหลัง พร้อมเบี้ยปรับและเงินเพิ่ม
หากคุณขายของส่วนตัวเป็นครั้งคราว เช่น
ไม่จำเป็นต้องยื่นภาษีจากกิจกรรมนั้นแต่อย่างไรก็ตาม ควรเก็บหลักฐาน เช่น
แต่ถ้าคุณเริ่มมีพฤติกรรมดังนี้:
ควรพิจารณาทะยอยวางระบบให้ถูกต้อง เช่น
เช่น ขายกระเป๋า Chanel, Rolex, ของสะสมหายาก หากขายในราคาสูงมาก และมีการขายหลายครั้งในปีเดียวกัน
กรมสรรพากรอาจเรียกตรวจสอบว่าเป็น “นักลงทุน–พ่อค้าแฝง”
✅ ถ้าสามารถพิสูจน์ว่าไม่ได้ตั้งใจค้า เช่น ไม่มีการซื้อเพิ่ม ไม่มีการทำโฆษณา ก็อาจยกเว้นได้
❌ แต่ถ้าเกิดพฤติกรรม “ซื้อ–ขาย–ซื้อ–ขาย” ซ้ำ ๆ ก็เข้าข่าย “ค้ากำไร” และต้องเสียภาษี
การนำของส่วนตัวมาขาย ไม่ได้เสียภาษีเสมอไปแต่ขึ้นอยู่กับลักษณะการขาย ความถี่ รายได้ และเจตนาในการดำเนินกิจกรรมหากขายเพียงครั้งคราว ไม่ได้ค้ากำไร หรือมีมูลค่าเล็กน้อย มักไม่เข้าข่ายเสียภาษีแต่ถ้ามีลักษณะเหมือนพ่อค้าแม่ค้า → ควรยื่นภาษีและวางระบบให้ถูกต้อง
✅ ขายของใช้เก่า – ไม่น่ากังวล
✅ ขายเยอะ–ขายบ่อย – เริ่มเสี่ยง
✅ ซื้อมาเพื่อขายต่อ – ต้องเสียภาษี
หากไม่มั่นใจว่าต้องเสียภาษีหรือไม่ ควรปรึกษานักบัญชีหรือผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีเพราะภาษีที่ไม่ถูกต้อง อาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณในอนาคต
ติดต่อสำนักงานบัญชี บริษัท กรีนโปร เคเอสพี แอคเคาท์ติ้ง จำกัด
ที่อยู่ 32/8 ซอยสุขาภิบาล 5 ซอย 73 (พรกุลวัฒน์) แขวง ออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพฯ 10220
เวลาทำการ: จันทร์ – ศุกร์: 8.30 – 17.30 น.
แอดไลน์คลิกลิงก์: @greenprokspacc
โทร: 085-067-4884