อ่านบัญชีไม่เป็นเลย ควรเริ่มดูงบการเงินจากตรงไหนก่อน?

อ่านบัญชีไม่เป็นเลย-ควรเริ่มดูงบการเงินจากตรงไหนก่อน

อ่านบัญชีไม่เป็นก็เข้าใจงบการเงินได้

หลายคนที่เริ่มทำธุรกิจมักรู้สึกว่า “บัญชี” เป็นเรื่องยาก ต้องมีความรู้เฉพาะทางถึงจะเข้าใจได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การดูงบการเงินให้เป็น ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด หากคุณเข้าใจโครงสร้าง และรู้ว่าควรเริ่มจากจุดไหน ถึงจะดูออกว่าธุรกิจของคุณกำลัง “มีกำไรจริงไหม” หรือ “เงินกำลังรั่วตรงไหน”

บทความนี้จะช่วยคุณเริ่มดูงบการเงินอย่างเป็นระบบ เข้าใจง่าย โดยไม่ต้องเป็นนักบัญชี

งบการเงินคืออะไร? ทำไมถึงสำคัญกับผู้ประกอบการ

งบการเงินคือเอกสารที่สรุปภาพรวมการเงินของธุรกิจ โดยประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก:

  1. งบกำไรขาดทุน (P&L) – ธุรกิจมีกำไรหรือขาดทุน?
  2. งบฐานะการเงิน (Balance Sheet) – ธุรกิจมีทรัพย์สิน หนี้สิน ทุนเท่าไหร่?
  3. งบกระแสเงินสด (Cash Flow) – เงินสดในบริษัทไหลเข้าออกอย่างไร?

เจ้าของธุรกิจที่ดูงบการเงินเป็นจะ:

  • ควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น
  • รู้ว่าเงินหายไปไหน
  • รู้ว่ากำไรที่เห็นนั้น “จริงหรือหลอก”
  • ป้องกันความเสี่ยงก่อนเจอวิกฤต

ถ้าไม่เคยดูงบการเงินมาก่อน ควรเริ่มจากอะไร?

1. “งบกำไรขาดทุน” : บอก “รายได้-รายจ่าย = กำไร” ของธุรกิจในช่วงเวลานั้น

องค์ประกอบหลัก:

  • รายได้รวม (Revenue) เช่น ยอดขายสินค้า บริการ
  • ต้นทุนขาย (COGS) เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงผลิต
  • ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (Operating Expenses) เช่น เงินเดือน ค่าโฆษณา ค่าเช่า
  • กำไรสุทธิ (Net Profit) หลังหักภาษีและต้นทุนทั้งหมด

ดูอะไรในงบนี้ : 

  • ยอดขายเพิ่มขึ้นหรือลดลง?
  • ค่าใช้จ่ายบานปลายหรือควบคุมได้?
  • กำไรสุทธิคุ้มกับที่ลงทุนหรือไม่?

2.  “งบฐานะการเงิน” – เพื่อรู้ว่าบริษัทมีฐานะทางการเงินดีแค่ไหน : งบดุลแสดงว่า ณ วันสิ้นงวด (เช่น 31 ธันวาคม) บริษัทคุณมีอะไรเป็นของตัวเอง และติดหนี้ใครบ้าง

โครงสร้างหลัก:

  • สินทรัพย์ (Assets): เงินสด, สินค้าคงคลัง, เครื่องจักร, ลูกหนี้
  • หนี้สิน (Liabilities): เจ้าหนี้, เงินกู้, ภาษีค้างจ่าย
  • ทุน (Equity): เงินลงทุน, กำไรสะสม

สูตรสำคัญ:

สินทรัพย์ = หนี้สิน + ทุน

ดูอะไรในงบนี้ : 

  • หนี้เยอะกว่าสินทรัพย์หรือไม่? เสี่ยงล้มละลายไหม?
  • ลูกหนี้เพิ่มขึ้นเยอะ = เก็บเงินไม่ได้?
  • ทุนลดลง = บริษัทขาดทุนเรื้อรัง?

3. ตรวจ “งบกระแสเงินสด” – เงินสดยังไหลเวียนอยู่หรือไม่? : แม้กำไรจะดูดี แต่ถ้าไม่มี “เงินสด” ธุรกิจก็ไปต่อไม่ได้ เช่น ไม่มีเงินจ่ายพนักงาน หรือจ่ายเจ้าหนี้

กลุ่มกิจกรรมต่างๆในงบนี้:

  1. กิจกรรมดำเนินงาน: รับ-จ่ายจากกิจกรรมหลัก (ขาย-ซื้อ)
  2. กิจกรรมลงทุน: ซื้อสินทรัพย์ เครื่องจักร ฯลฯ
  3. กิจกรรมจัดหาเงิน: กู้เงิน, รับเงินลงทุน, จ่ายปันผล

ดูอะไรในงบนี้ : 

  • เงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน “บวกหรือลบ”?
  • ต้องพึ่งกู้เงินเพื่อหมุนเวียนหรือไม่?
  • เงินออกไปกับการลงทุนมากเกินไปไหม?

H3 : เคล็ดลับการดูงบการเงินสำหรับมือใหม่

  1. ✅ เปรียบเทียบงบกับ “ช่วงเวลาก่อนหน้า” เพื่อดูแนวโน้ม เช่น รายได้เพิ่มขึ้นทุกไตรมาสหรือไม่?
  2. ✅ คิดเป็น “เปอร์เซ็นต์” แทนยอดเงิน ค่าใช้จ่าย = 30% ของยอดขาย = สูงไปหรือไม่? ต้นทุนขายเป็นกี่ % ของยอดขาย และมีกำไรขั้นต้นกี่ % พอหักค่าใช้จ่ายในการบริหารไหม 
  3. ✅ สังเกตสัญญาณผิดปกติ
  • กำไรลดแต่ยอดขายเพิ่ม = ค่าใช้จ่ายบานปลาย
  • ลูกหนี้เพิ่ม = เก็บเงินไม่ได้
  • เงินสดติดลบ = ต้องดูว่าเงินไหลออกไปทางไหน

สิ่งที่ควรระวังในการอ่านงบการเงิน

  1. กำไรในงบอาจไม่ใช่เงินสดที่มีจริง : ต้องดูงบกระแสเงินสดควบคู่กัน
  2. งบที่ไม่มีการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี อาจไม่น่าเชื่อถือ : เลือกดูงบที่มีผู้สอบบัญชีเซ็นรับรองงบการเงิน
  3. อาจมีการ “แต่งงบ” ได้ในบางธุรกิจ :  เช่น ไม่ตั้งสำรองหนี้สูญ, รับรู้รายได้ล่วงหน้าเป็นรายได้

สรุป: อ่านบัญชีไม่เป็น ก็เริ่มดูงบการเงินได้

การเข้าใจงบการเงินไม่ใช่เรื่องของนักบัญชีเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่ “เจ้าของธุรกิจทุกคนควรดูให้เป็น”

ถ้าคุณเพิ่งเริ่ม ให้ทำตามนี้:

  1. เริ่มจาก “งบกำไรขาดทุน” – เข้าใจรายได้ รายจ่าย กำไร
  2. ต่อด้วย “งบฐานะการเงิน” – รู้ว่าธุรกิจมีหนี้สิน-ทรัพย์สินแค่ไหน
  3. ปิดท้ายด้วย “งบกระแสเงินสด” – เช็กเงินสดหมุนเวียน

แม้คุณจะอ่านบัญชีไม่เป็นเลย แต่ถ้าทำความเข้าใจพื้นฐานเหล่านี้ได้ ธุรกิจก็จะมั่นคง ปลอดภัย และวางแผนขยายได้อย่างมั่นใจ